ซีรี่ย์ ฝรั่ง
ซีรี่ย์ ฝรั่ง Emily In Paris ผลงานปัจจุบันของ Darren Star ผู้ผลิต Sex and the City เรื่องราวของ ดูหนังผ่านเน็ต เอมิลี่ คูเปอร์ (Liy Collins ) สาวนักบริหารการตลาดวัยยี่สิบกว่าๆจากชิคาโก ได้งานในฝันที่กรุงปารีสแบบไม่คาดคิด เป็นการเสี่ยงภัยเล็กๆสำหรับการดำเนินงาน ชีวิตรักแล้วก็การเดินตามความฝันในมหานครกรุงปารีส ซีรีส์ขายฝัน แบบอเมริกันสไตล์ เอมิลี่ คูเปอร์ (Lily Collins) เป็นสาวน้อยคนอเมริกัน มีความคิดประดิษฐ์ไม่ซ้ำใคร แถมยังเก่งในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการตลาดผ่านเครือข่ายสังคม คุณมีความหลงไหลในนครกรุงปารีสเอามากๆ
เมื่อบริษัทตกลงใจส่งคุณมาดำเนินงานอยู่ที่บริษัทการตลาดในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากว่าบริษัทในประเทศฝรั่งเศสถูกซื้อกิจการค้ารวมกับบริษัทในสหรัฐอเมริกา พอๆกับว่านอกจากได้ไปอยู่ในดินแดนในฝันแล้ว เอมิลี่ยังได้รับช่องทางเพื่อพิสูจน์ฝีมืออีกต่างหากแม้กระนั้นการมาอยู่กรุงปารีสไม่ใช้ว่าจะง่าย คุณเป็นอเมริกันที่บอกภาษาประเทศฝรั่งเศสมิได้ แต่ว่าโน่นไม่ใช่ปัญหาที่คุณรู้สึกไม่สบายใจ เพียงแค่ได้ไปกรุงปารีสอะไรก็ไม่น่ากลัวสำหรับคุณทั้งหมด แม้กระทั่งคุณจะต้องเจอปัญหามากมายก่ายกอง แฟนชายหนุ่มเลิกราเพราะเหตุว่าความแตกต่าง การเช็ดกกีดกันจากหัวหน้างาน ปัญหาด้านภาษาต่างๆเอมิลี่ก็ปรับนิสัยจ้ะ
ความเป็นมนุษย์เบิกบานและก็คิดบวก เอมิลี่ได้เจอกับ ไม่นดี้ (Ashley Jini Park) เพื่อนฝูงสาวจากเมืองจีน ที่ยอมทิ้งฐานะรวยของทางบ้านมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ได้เจอกับ เกเบรียล (Lucas Bravo) เชฟชายหนุ่มดูดี ที่เป็นเพื่อนบ้านอยู่ห้องด้านล่างรวมทั้ง ค้างไม่ลล์ (Camille Razat) เพื่อนฝูงสาวที่ช่วยคุณซื้อดอกไม้ การเดินตามความฝันในนครกรุงปารีสของคุณ ก็เกิดเรื่องรื้นเริงสดชื่นได้แต่ละวันสำหรับเพศชายไม่ต้องมองอะไรมากมาย มองความน่ารักน่าเอ็นดูเครื่องหน้าเป๊ะๆกับหุ่นทรงกระจิดริดของ ลิลลี่ คอลลินส์ ก็สดชื่นแล้ว ประเด็นนี้นางเอกจะเป็นสาวมั่น ฉลาดที่มีความบากบั่นสำหรับเพื่อการไขปัญหาทั้งหมดทุกอย่าง ขอให้ฉันได้อยู่ที่ตรงนี้ในที่ที่ฉันไฝ่ฝัน
มหานครที่ความโรแมนติกที่ถึงแม้ว่าจะจำเป็นต้องอาศัยอยู่ในอาคารเก่า ซีรี่ย์ ฝรั่ง แต่เพียงเปิดหน้าต่างออกไป ความเจิดรุ่งเรืองก็ไหลผ่านเข้ามาได้อย่างง่ายดายจะว่าไปประเทศเขาก็งามชวนมองจริงๆอ่ะล่ะนะเป็นซีรีส์ขายฝันดีๆนี่เองล่ะจ้ะ แต่ว่าเป็นฝันของสาวอเมริกันที่ต้องการจะพิสูจน์ตนเอง นำความนึกคิดมุมมองแบบอเมริกันสไตล์มาแลกซึ่งกันและกันกับสหายร่วมงานใหม่คนยุโรป บทมีการเปรียบวิถีชีวิต ความต่างด้านวัฒนธรรมความนึกคิด การทำงาน เรียกว่าจิกกัดอยู่ปลายๆพอเพียงขำๆ
แม้กระนั้นก็เห็นดีเห็นชอบด้วยไปซะอีก มีบทสำหรับพูดตอนหนึ่งที่สหายร่วมงานบอกกับเอมิลี่ว่า คนประเทศฝรั่งเศสปฏิบัติงานเพื่อดำรงชีวิต ไม่ใช่มีชีวิตเพื่อดำเนินงาน ประโยคสั้นๆเท่านี้ทำให้พวกเราฉุกคิดได้เช่นเดียวกันนะ ว่าเอ๊ะ แล้วพวกเราดำเนินงานเพื่อดำรงชีวิตแบบตาหัวทองคำนี่ หรือมีชีวิตเพื่อการทำงานแบบเอมิลี่กันแน่แต่ว่าสำหรับเอมิลี่ในหัวข้อนี้แล้ว การมาดำเนินการที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นการใช้ชีวิตของคุณ รายละเอียดต่างๆในเรื่องบอกเลยว่ามองง่ายเอามากๆมองแบบเพลิดเพลินๆย่อยง่ายไปกับซีรีส์สั้นๆตอนละ 23-30 นาทีเพียงเท่านั้น มองไปดูมาก็เผลอจบซีซันเอาซะกล้วยๆเรื่องราวส่วนมากเดินเรื่องโดยเอมิลี่ กับชีวิตในแต่ละด้านของคุณ
ความเป็น professional ในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คแล้วก็ทุกปัญหาที่แก้ได้แบบเอมิลี่ซะอย่าง จะเรียกว่าเป็นการเสี่ยงภัยเล็กๆก็ไม่ผิด มีเรื่องมีราวราวไม่คาดคิดแม้กระทั้งเรื่องของสุนัขที่มาขี้อยู่หน้าบ้าน ในมหานครที่ไม่น่าจะโจ่งแจ้งขนาดนี้ให้ได้พอเพียงขำๆ(กัดเก่งสับสนสับสน)ความที่มีวิญญาณอินฟลูเอนเซอร์ นางก็ใช้โซเชียลฯอย่างมีประโยชน์ในทุกวิถีทาง ทำให้มียอดผู้ติดตามเยอะขึ้นจนกระทั่งช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินงานได้ดูเหมือนจะทุกครั้ง ซีรีส์ก็เน้นย้ำให้มองเห็นคุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างมาก
สร้างให้เอมิลี่เป็นสาวน้อยน่าพิศวงที่กลับวิกฤติเป็นช่องทางได้เสมอ ซีรี่ย์ ฝรั่ง เป็นคอมเมดี้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงเรื่องที่ควรจะเครียดให้เกิดเรื่องเบาๆอย่างเฉย บอกเป็นนัยเอาไว้ว่า จิตใจสู้รวมทั้งมั่นใจในตัวเองซะอย่าง ทุกๆอย่างก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากหากพวกเราเป็นจริงเป็นจังพอเพียงตอนสุดท้ายได้เลยคะ เรื่องราวแต่ละตอนจะมีตอนจบตบท้ายให้ตามต่อ แล้วพวกเราก็ดันตามต่อเข้าจริงๆใช้คำว่าน่ารักสนุกสนานมองเพลิดเพลินได้อย่างไม่ขัดปาก พาร์ตการดำเนินการก็ลุ้นตามทั้งที่รู้อยู่แล้วละว่าเอมิลี่จัดแจงได้
แม้กระนั้นต้องการจะรู้ดีว่าจะจัดแจงด้วยแนวทางไหน พาร์ทความรักก็เอาใจช่วย ตกลงเอมิลี่นี่จะอย่างไร ความรักจะสมหวังจบกับเขาสักครั้งหรือไม่เป็นดราม่าเบาๆหนักไปทางคอมเมดี้ซะมากยิ่งกว่า แต่ว่าไม่ใช่คอมเมดี้ที่พวกเราจะมานั่งขำก๊ากท้องแข็ง เป็นคอมเมดี้เพลิดเพลินๆราวกับบดของหวานกรุบกรอบ สบายตาไปกับโลเคชันสวยๆของนครกรุงปารีส ฟินๆอารมณ์เอาใจช่วยไปกับเอมิลี่เวลาเข้าพระเข้านาง กำลังลุ้นจู่ๆบทก็บิดให้พวกเราลุ้นค้างร้อง อ้าววว … เอายังไงดีล่ะเอมิลี่กันได้เสมอๆ
ซีรีส์สร้างมาให้พวกเรามองเพลิดเพลินๆแบบไม่ต้องคิดมากกันเต็มๆเลยจ๊าขา ซีรี่ย์ ฝรั่ง ด้วยเหตุดังกล่าวไม่จำเป็นต้องหาความเป็นเหตุเป็นผลในประเด็นนี้เลยจ๊า เนื่องจากว่ามันจะไม่มี (ฮาาา) มันเป็นได้ยากมากมายๆที่บริษัทการตลาดยักษ์ใหญ่ จะส่งบุคลากรตัวเล็กๆมาดำเนินการด้านการตลาดในบริษัทที่ถูกควบรวม แถมบุคลากรคนนั้นยังกล่าวภาษาประเทศฝรั่งเศสมิได้ไปซะอีก แม้กระนั้นก้ได้มาอ่ะนะ ราวกับปลดปล่อยลูกนกเอ๋าๆอ๋าๆป้อมปราการดวงใจเกินเบอร์มาสร้างปาฏิหาริย์ที่เป็นได้ยากให้เป็นได้ด้วยพลังอัศจรรย์ มองขำๆไปจ้ะ อย่าคิดมาก
Emily in Paris : เอมิลี่ในปารีส
Emily เป็นสาวน้อยอเมริกันผู้มีความทะยานอยากได้ถูกส่งตัวไปยังกรุงปารีสเพื่อไปช่วยทำการตลาดออนไลน์ให้กับบริษัทในประเทศฝรั่งเศสนั่นเองจ้ะ ซึ่งแน่ๆว่าแม่สาวน้อยคนนี้ก็แฮปปี้กระดี๊กระด๊ากันเป็นการใหญ่เพราะว่าหนึ่งเลยก็คือกรุงปารีสเป็นเมืองที่คุณใฝ่ฝันแม้กระนั้นแน่ๆว่าการมาจากต่างถิ่นรวมทั้งต่างวัฒนธรรมแบบนี้ก็ไม่ใช่ง่ายดังการปอกกล้วยเข้าปากแน่ๆ ด้วยเหตุว่า Emily นั้นควรจะมีการปรับตัวใหม่ทั้งสิ้น เพื่อนฝูงเอ่ย สังคมเอ่ย รวมทั้งสังคมสถานที่สำหรับทำงานด้วยด้วยเหมือนกันจ้ะ
แต่ว่าในเรื่องก็มิได้ใจดำขนาดนั้นจ้ะเพราะเหตุว่าขั้นต่ำคุณก็พบกับเพื่อนพ้องที่สวยแล้วก็สุจริตใจอย่าง Mindy และก็เชฟชายหนุ่มที่เป็นทั้งเพื่อนบ้านรวมทั้งเพื่อนพ้องรู้ใจสุดหล่ออย่างชายหนุ่ม Gabriel แต่ว่าแล้วพอนานๆเข้าเนื้อหาราวต่างๆก็สลับซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นอีกทั้งเรื่องงาน เรื่องรัก และก็เรื่องชีวิต แล้วแบบงี้ Emily ของพวกเราจะก้าวผ่านปัญหาพวกนี้ไปยังไงก็จำต้องไปติดตามได้ในซีรีส์นะคะ
สำหรับใครกันแน่ที่คลั่งไคล้ในเสน่ห์ความสวยสดงดงามของกรุงปารีสก็ไม่สมควรพลาดอย่างมากจ้ะเนื่องจากซีรีส์ประเด็นนี้ไปถ่ายทำกันถึงกรุงปารีสรวมทั้งยังถ่ายทำตามสถานที่สำคัญที่เป็นที่รู้จักที่สุดในกรุงปารีสอีกด้วย มุมงาม ภาพดี ประกอบกับตัวละครที่เป็นตัวละครเอกอย่าง Emily ที่มาพร้อมทั้งแฟชั่นสุดปังแล้วด้วยนี่ก็เลยยิ่งเติมเต็มความเป็นที่แฟชั่นแล้วก็ศิลป์ได้เพอร์เฟ็คมากมายอย่างยิ่งจริงๆ Emily in Paris นับว่าเป็นซีรีส์ที่มีเรื่องราวที่ไม่สลับซับซ้อน ตัวเรื่องราวเองก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ดราม่าไม่เยอะแยะ ดูแล้วมิได้รู้สึกเครียดตาม แถมยังเกิดเรื่องที่เข้าใจง่ายมีการแทรกมุกขำขันหรือฉากที่สร้างรอยยิ้มตลอดเรื่อง
The Queen’s Gambit : เกมกระดานแห่งชีวิต
เป็นซีรีส์ที่เริ่มด้วยการกล่าวถึงเด็กสาวที่จะต้องอยู่ในบ้านกำพร้าโดยลำพังซึ่งแต่เดิมนั้น Beth Harmon เป็นผู้ที่ค่อนข้างจะเก็บเนื้อเก็บตัวเฉยๆใบหน้าขึ้งเครียดตลดเวลา รวมทั้งดูอย่างกับว่าเด็กปกติทั่วๆไปที่มิได้มีอะไรที่พิเศษไม่เหมือนกันกับเด็กผู้อื่นแต่ว่าแล้ววันหนึ่งคุณก็ได้ได้โอกาสเล่นหมากรุกเกมแรกกับนักการภารโรงที่ชั้นที่อยู่ใต้ดินของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วต่อจากนั้นมาชีวิตของคุณก็แปรไปนิรันดร Beth
เบาๆโตขึ้นแล้วก็ในเวลาเดียวกันความสามารถการเล่นของคุณก็เบาๆ ซีรี่ย์ ฝรั่ง เข้มแข็งขึ้นเหมือนกัน พูดได้ว่าคุณแก้เกมได้อย่างชาญฉลาดและก็สามารถล้มแชมป์เก่าได้นักต่อนัก แต่ว่านอกเหนือจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเดินเกมหมากรุกแล้วนั้น Beth ยังจะต้องเดินเกมชีวิตด้วยด้วยเหมือนกัน ทั้งยังเงื่อนเรื่องของครอบครัว ความรัก รวมทั้งเรื่องหมองๆอีกเยอะแยะที่ถาโถมเข้ามาเช่นเดียวกันกับคลื่นลูกใหญ่
สำหรับซีรีส์หัวข้อนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่เสิร์ฟความรู้สึกลุ้นและก็ความระทึกใจไดีดี แม้ว่าจะมิได้มีฉากแอ็กชันเลยก็ตาม แถมยังเป็นเหตุให้ผู้ชมรู้สึกเครียดรวมทั้งรู้สึกเป็นห่วงร่วมไปกับ Beth ในทุกๆการแข่งขันชิงชัยอีกด้วย และก็ถึงแม้คุณอาจจะมิได้อินกับหมากรุกมาก่อนแม้กระนั้นด้วยฉาก เพลง รวมทั้งอารมณ์ของผู้แสดงก็สามารถทำให้พวกเราเชื่อตามได้ไม่ยาก
รวมทั้งที่พวกเราถูกใจมากมายอีกอย่างซึ่งก็คือตัวของ Anya Taylor-Joy ที่หัวข้อนี้ถือแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม เนื่องจากไม่ใช่แค่สีหน้าท่าทางหรือคำบอกเล่าแค่นั้นแต่ว่าสายตาของคุณสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้แบบดุเด็ดเผ็ดมัน หากว่าคุณจะมิได้บอกอะไรสักคำแต่ว่าสายตาของคุณนั้นสามารถชี้แจงความคิดของ Beth ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Tribes Of Europa ยูโรปาทมิฬ
ซีรีส์แนวไซไฟดราม่า-ดิสโทเปียจากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สร้างโดย Wiedemann & Berg Film Production สตูดิโอหนังจากประเทศเยอรมนี ผู้ผลิตซีรีส์เรื่อง ดูหนังผ่านเน็ต DARK ที่เคยสร้างความอึ้งตาแตกของงานไซไฟแนวยุโรปที่สุดยอด ตอนนี้ขอลดสัดส่วนจากเรื่องยุคสมัยมาคือเรื่องของโลกอนาคตที่ล่มสลายอย่างที่ผู้ชมหนังถูกใจเรียกกันว่า ดิสโทเปีย แทน สร้างโดย ฟิลิป คอค และผู้แสดงเยอรมันพลุกพล่านอย่าง เฮนรีเอตเทอ คอนฟูเรียส, เอมิลิโอ ซาครายา, ดาวิด อาลี ราเชด ขายโดยเน็ตฟลิกซ์
นับว่าเป็นอีกรอบที่บริษัทสร้างภาพยนตร์สร้างเรื่องราวสไตล์ของตนเองอีกรอบ ซีรี่ย์ ฝรั่ง ด้วยพล็อตที่ใครกันแน่ได้ยินก็จำเป็นต้องมั่นใจว่ามันมีกระทั่งเฝือแล้วในแวดวงฮอลลีวู้ด แม้กระนั้นเพียงพอมันมาอยู่ในสเกลของยุโรป มันก็จำต้องสร้างจุดเปลี่ยนที่น่าดึงดูดได้เช่นเดียวกัน“ในปี 2074 โลกนั้นได้ล่มสลาย เทคโนโลยีได้ตายจากอย่างไม่รู้มูลเหตุที่เรียกว่า ดูหนังผ่านเน็ต “ธันวาร้ายกาจ” สังคมมนุษย์ในยุโรปต่อจากนั้นถูกแบ่งได้ชนเผ่าจักรวรรดิต่างๆเรียกว่า ยูโรปา ผู้คนที่อาศัยนิดหน่อยถูกบีบให้จะต้องฆ่าคุ้นเคย
เล็กน้อยอยู่อย่างสงบเงียบมาเป็นระยะเวลานาน หรือแม้กระทั้งกองกำลังทหารที่อุตสาหะทวงคืนสังคมที่แสนสงบคืนมา แต่ว่าสามลูกพี่ลูกน้อง เอลคุณย่า ลิฟ และก็คีอาโน ที่อาศัยอยู่ในชนเผ่าที่แสนสงบร่วมกับบิดาของตน ครอบครัวที่แสนรักใคร่สามัคคี กลับจำต้องถูกดึงไปสู่วังวนที่การเอาตัวรอด เมื่อภยันตรายจากชนเผ่าโหดร้ายทารุณได้เข้ารุกรามชีวิตและก็แยกพวกเขาออกมาจากกัน ทั้งยังสามก็เลยต้องหาแนวทางที่จะดิ้นรนรอดชีวิต เพื่อความคาดหวังที่จะปล่อยเผ่าต่างๆจากความมืดมนมิดที่กำลังเข้าครอบครองทวีปอย่างช้าๆ”
ถ้าได้ดูหนังฮอลลีวู้ดมาเป็นจำนวนมากจะเข้าหัวใจได้ในทันทีทันใดเลย มิได้สลับซับซ้อนอะไรมากไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งยังเรื่องพล็อตโลกล่มสลาย เรื่องของชนเผ่าต่างๆที่จำเป็นต้องอยู่แยกกันไม่ให้มีปัญหาหรือการทำศึก ไม่ก็จำต้องออกแย่งชิงอาณานิคมในทวีป ซึ่งมันเป็นส่วนประกอบสำคัญของแนวดิสโทเปีย แน่ๆซีรีส์ก็ดำเนินเรื่องอย่างนี้แบบเดียวกัน โครงของมันแบบไม่สปอยก็คือ ผู้แสดงอยู่แบบสงบๆสับสนๆไม่อะไรกับคนใดกันแน่ แม้กระนั้นและจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ใหญ่สังกัดตนเองจนถึงจะต้องแอบหนีออกมาจากที่ที่ตนเองเคยอยู่
ความประพฤติปฏิบัติของนักแสดงนั้นสอดคล้องกับนักแสดงและก็มีเหตุผลทุกคน เรื่องราวยังแอบแฝงไปด้วยความร้ายแรงที่บางโอกาสอายุ 18 ก็ยังจำต้องพินิจพิเคราะห์ตาม เนื่องจากว่ามันแรงมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ นี่เป็นความมุ่งมั่นที่ซีรีส์อเมริกันให้มิได้หมายถึงดำเนินเรื่องไปด้านหน้าอย่างไม่อ้อมค้อม ในเวลาเดียวกันก็ตั้งใจเนื้อหาหรืออารมณ์ของผู้แสดงด้วย ทำให้พวกเรารู้สึกอินตามว่าพวกเราจะอยู่ฝั่งไหน มีมิติของความประพฤตินั้นอยู่ ในตอนทีแรกๆบางทีก็อาจจะคิดว่ามันแปลกๆซ้ำๆซากๆ
แม้กระนั้นเพียงพอเข้าตอนก่อนด้านหลังเรื่องในตอนแรกมันจะสาดความน่าติดตาม จากนั้นก็จะต้องการมองตอนหน้าเรื่อยด้วยเหตุว่าเสมือนช่วงแรกมันจะทราบแล้วว่าปูอะไร และหลังจากนั้นก็ค่อยใส่เนื้อหาเพิ่มกระทั่งมันสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง พูดง่ายๆเป็น มันเป็นการนำจุดเด่นของดิสโทเปียอเมริกันมาตีความหมายแบบยุโรป และก็มันเห็นผลมากมายเมื่อมาพบความสนใจเนื้อหาในงานสร้างอย่างนี้การแบ่งพาร์ทนักแสดงที่ให้อารมณ์เสมือนสตาร์วอร์ตรีภาคข้างหลังๆที่เน้นเล่าการค้นหาตนเอง ภายหลังถูกจู่โจม และก็ได้เจอกับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่
แม้ว่าจะอยู่คนละฝั่ง แต่ละคนถูกผลักให้ไปสู่ทางของตน ซีรี่ย์ ฝรั่ง สลับกับการมีตัวละครเสริมเด่นๆมาช่วยเพิ่มเติมรสให้การเดินทางนั้นมีชีวิตชีวาด้วย ทั้งยังเรื่องราวยังไปด้านหน้าอย่างเร็วและก็ช้ำใจแบบไม่เกรงใจผู้ชม นักแสดงต่างๆจะต้องพบกับเรื่องห่วยที่ไม่สมกับวัย แต่ว่าก็ยังจะต้องเดินหน้าถัดไปอย่างมีหวังว่าวันใดวันหนึ่งจะได้มีอิสรภาพญ่ที่กระทบกับชีวิตกระทั่งจำเป็นต้องเอาชีวิตรอด พร้อมด้วยค้นหาตัวตนหรือความลับของอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เอลคุณย่า หนุ่มน้อยผู้มีภารกิจสำคัญที่จำต้องทำ ลิฟ
American Gods สงครามเทพเจ้าสองสมัย
ซีรีย์ที่ได้บทมาจากนักประพันธ์คนประเทศอังกฤษที่มีชื่อ Neil Gaiman ที่พวกเราบางทีอาจผ่านตาผลงานของเขามาบ้างอีกทั้งในซีรีย์ภาพยนตร์แล้วก็ (stop motion) อนิเมชั่น (Good omens-2019 , Coraline-2009, Stardust-2007) ซึ่งแนวของนีลจะเป็นชนิดแฟนตาซีหม่นหมองๆราวกับของหวานที่รสออกขม ติดดาร์กนิดๆคนใดกันแน่เคยอ่านผลงานเขียนของนีลก็จะทราบดีว่าเวลาเอามาทำเป็นซีรีย์หรือหนังนี่เป็นลดความเข้มไปมากมาย จุดเด่นคือทำให้เรื่องไม่เครียด บรรเทากว่า เสมือนเอาไปปรับให้สมดุลไม่เข้มจนกระทั่งตึง
แต่ว่าก็ยังคงทิ้งความเทาๆกับขบขันร้ายตามแบบฉบับนิลเอาไว้ ซึ่งบทเขียนของนีลได้ถูกมาทำเป็นซีรีย์แล้วก็ได้เอามาปรับปรุงต่อโดย Bryan fuller นักประพันธ์และก็โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกา (Dead Like Me, Wonderfalls, Pushing Daisies, Hannibal)ซีรีย์มีการเดินเรื่องไปแบบเนิบๆไม่เร่งรัดอะไรนัก ตอนอินโทรมีการเกริ่นถึงความเลื่อมใสในพระผู้เป็นเจ้าของสมัยเก่า (ซึ่งในซีรีย์จะมีการย้อนกลับไปเอ๋ยถึงสมัยเก่าอยู่เป็นระยะ) ด้วยชาวไวกิ้งที่เดินทางมายังอเมริกาและก็แสดงถึงการจัดการกับปัญหาด้วยความร้ายแรงเนื่องมาจากยังมีความเชื่อเกี่ยวกับ
การมอบสิ่งที่คิดว่าพระผู้เป็นเจ้าอยากให้เพื่อเป็นการแลกกับสิ่งที่ตนเองปรารถนาด้วยเหมือนกัน ก่อนที่จะตัดมาที่ผู้แสดงหลัก ชาโดว์ มูน (Ricky Whittle) ที่ได้รับการปล่อยตัวจากคุกออกมาก่อนที่จะครบกำหนด กลางทางกลับไปอยู่บ้านเขาได้เจอกับ เวนส์เดย์ (lan McShane) ชายผู้ชอบได้ในสิ่งที่เขาอยากได้อยู่ตลอด เวนส์เดย์ทาบทามชาโดว์ให้ปฏิบัติงานกับเขา ด้วยบทพูดน่าอัศจรรย์ เรื่องวุ่นวายทั้งหลายแหล่ตามมาภายหลังที่ชาโดว์ตอบรับการทำงานกับเวนส์เดย์
อย่างที่พูดว่า American Gods เป็นซีรีย์ที่เดินเรื่องเรื่อยแต่ไม่มีเบื่อ ด้วยบทสำหรับพูดที่มีเสน่ห์ประกอบกับการแสดงของเบื่อ (ถ้าเกิดคิดภาพตามไม่ออกให้ระลึกถึงที่เบื่อสวมบทบาทผู้จัดการอพาร์เม้นท์ใน John Wick บรรยากาศคล้ายกัน)ตัดภาพมาที่ช่วงปัจจุบัน การดำรงชีวิตที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงก็เป็นต้นเหตุหลักที่ทำให้ความปรารถนา สิ่งที่ขอ (ต่อพระผู้เป็นเจ้า) ต่างจากคนภายในอดีตสมัยแล้ว สิ่งที่มีฤทธิ์ผลต่อชีวิตพวกเราในยุคนี้ไม่ใช่ภาวะสภาพอากาศ ความปรวนแปรของฟ้าไม่ทำให้พวกเราเป็นห่วงอีกต่อไปเหตุเพราะการพัฒนาของวิทยาศาสตร์รวมทั้งเทคโนโลยีทำให้พวกเรารู้เรื่องรวมทั้งเปลี่ยนแปลงความหวั่นกลัวของพวกเราให้ต่างออกไป
พระผู้เป็นเจ้าในยุคนี้ก็เลยมาให้แบบอย่างที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวันสิ่งที่พวกเราต่างก็ให้ค่าแล้วก็ความพอใจ ซีรี่ย์ ฝรั่ง ในฤดูกาลแรกพวกเทวดายุคสมัยใหม่ที่เปิดตัวมาจะเป็น พระผู้เป็นเจ้าที่เทคโนโลยี (The God of Technogy – Bruce Langley) สื่อ และก็ Mister World ซึ่งยังคงเป็นตัวละครลับที่โผล่มาเพียงแค่ชื่อคงจะเก็บไว้เปิดตัวตอนฤดูกาลสอง แม้กระนั้นโดยรวมแล้วฤดูกาลนี้เทวดายุคสมัยใหม่จะยังไม่มีซีนพอๆกับเทวดาสมัยเก่าเท่าใด ราวกับเพียงแค่ออกมานิดๆหน่อยๆให้พวกเรารับทราบหน้าที่ของทั้งคู่ฝั่งมากยิ่งกว่า
หัวข้อสำคัญๆก็จะเป็นการเสียดสีเรื่องความศรัทธาความเลื่อมใสในแต่ละสมัย จับเทวดาทั้งคู่ยุคมาปะทะกันเพื่อฉกชิงความยิ่งใหญ่ ผู้ใดกันที่ติดอกติดใจประวัติความเป็นมาของเทวดาอาจถูกอกถูกใจแล้วก็อินกับรากฐานข้อมูลเดิมที่ช่วยมาเสริมกับเรื่องราวให้มีมิติมากขึ้นเรื่อยๆ American Gods เป็นแฟนตาซีซีรีย์ที่ไม่หวือหวามากสักเท่าไรนัก ผู้ที่คาดหมายว่าจะได้มองฉากพลังเหนือธรรมชาติหรือความแปลกประหลาดที่ฉีกออกไปอย่างเห็นได้ชัด บางครั้งก็อาจจะไม่สมหวังสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นนั้นกลับกลายจุดเด่นที่ทำให้โลกเทพนิยายในซีรีย์นี้มองเหมือนจริงขึ้นไปอีก
Raised By Wolves
ซีรีส์ประเด็นนี้ผู้กำกับ Ridley Scott (ควบตำแหน่ง Executive Producer กับการดูแลสามช่วงแรก) ได้แรงผลักดันต่อยอดจากผลงานสร้างของตนทั้งยัง Alien กับ Prometheus โดยตัวนำเป็นแอนดรอยด์ชายกับหญิงคู่หนึ่งที่เรียกตัวเองว่า ฟาคุณร์ มาคุณร์ (บิดา แม่) มีบทบาทค้นหาดาวดวงใหม่แทนโลกที่เกิดการทำศึกล้างเผ่าพันธ์ ต่อจากนั้นก็ลงหลักปักฐานดูแลให้กำเนิดแล้วก็คุ้มครองลูกมนุษย์จากตัวอ่อนที่ถูกส่งขึ้นมา โดยกรุ๊ป เอทิสต์ (Atheist)
คนไม่เชื่อพระผู้เป็นเจ้า คนไม่มีศาสนา โดยถูกโปรแกรมให้เลี้ยงเด็กกลุ่มนี้ขึ้นมาและก็อบรมห้ามเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าและก็ศาสนาลักษณะเดียวกันกับที่เอทิสต์ยึดมั่นไว้เช่นเดียวกัน แม้กระนั้นเมื่อเวลาผ่านไปหลายสิ่งหลายอย่างกลับไม่เป็นไปตามความคาดหวังไว้ แล้วก็พวกเขากลุ่มนี้จำเป็นต้องเจอกับกลุ่มของผู้คนที่นับถือศาสนาแล้วก็เดินทางจากโลกมาหาดินแดนใหม่ที่นี้ด้วยเหมือนกัน
องค์ประกอบโลกไซไฟในประเด็นนี้ค่อนข้างจะแปลกใหม่มากมาย ด้วยการเริ่มเรื่องในอนาคตที่มนุษย์สามารถเดินทางผ่านจักรวาลเพื่อชายหาดวงดาวที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ได้แล้ว กลับเลือกใช้โปรดักชั่นออกแบบเครื่องนุ่งห่มกับส่วนประกอบหลายประเภทที่มองย้อนยุคเชยๆอย่างชุดพลาสติครัดรูป จนถึงรู้สึกขัดลูกตาในทีแรกๆ ก่อนที่จะพวกเราจะเข้าดวงใจเรื่องราวโดยรวมว่ากำเนิดอะไรขึ้นในวันหลัง
ผ่านการแฟลชแบ็คย้อนกลับไปเป็นช่วงๆถึงช่วงบนโลกกับการทำศึกที่เกิดขึ้น โดยมีการต่อสู้กันของสองฝ่ายระหว่างผู้เชื่อในวิทยาศาสตร์กับศาสนา และก็ยังมีหุ่นแอนดรอยด์ที่ถูกเรียกว่า เนวัวรแมนเซอร์ (Necromancer) สร้างโดยข้างศาสนา จนกระทั่งเปลี่ยนมาเป็นตัวการทำลายมนุษย์โดยยังไม่รู้เหตุผลที่มาว่ากำเนิดอะไรขึ้นแน่ (อัพเดท ถึงแม้กระทั่งจบ SS1 ปัญหานี้ก็ยังผิดเฉลยคำตอบ)
ตัวเรื่องออกจะเต็มไปด้วยปัญหามากมายก่ายกองตั้งแต่ทีแรก ทั้งยังคำกล่าวรวมทั้งความประพฤติของสองแอนดรอยด์ผู้แสดงนำ แต่ว่าเรื่องก็มิได้ปิดเป็นเงื่อนค้างไว้ เพียงแค่ใช้กรรมวิธีการเล่าย้อนกลับมาให้ผู้ชมรู้เรื่องในวันหลัง ซึ่งในตอนแรกบางครั้งอาจจะดูอย่างกับว่าเข้าใจยาก แต่ว่าส่วนตัวคนเขียนมีความรู้สึกว่ามองง่ายดายเสียยิ่งกว่า Prometheus ที่ได้ผลสำเร็จงานเดียวกันของผู้กำกับซะอีก เนื่องจากหลายๆอย่างจัดการในตอนค่อมาโดยมิได้ทิ้งเงื่อนติดอยู่ไว้ แล้วก็ในหัวข้อนี้ก็ยังมีพล็อตเรื่องในหนทางใกล้เคียงกัน
ซึ่งถ้าหากคนใดตามเนื้อหาของ Prometheus ก็กับภาคถัดมารวมทั้งเรื่องราวหลังจากนั้นที่ยังไม่จบ ก็คงจะได้มีความเห็นว่าผู้กำกับ Ridley Scott หมกหมุ่นอยู่กับเรื่องแอนดรอยด์ที่มีกลไกความนึกคิดและก็ร่างกายราวกับมนุษย์แค่ไหน (จริงๆก็ตั้งแต่ Blade Runner ปี 1982 ที่สำเร็จงานของเขาเหมือนกัน) จนกระทั่งขั้นท้ายสุดแอนดรอยด์ก็เสมือนเป็นมนุษย์ แล้วก็สามารถสร้างชีวิตประดิษฐ์ขึ้นเองได้แบบที่มนุษย์มอบให้แอนดรอยด์เช่นเดียวกัน
ซึ่งประเด็นนี้ก็เพิ่มเติมจินตนาการเรื่องแนวความคิด ผู้ผลิต ซีรี่ย์ ฝรั่ง เอ็นจิเนียร์ หรือพระผู้เป็นเจ้า มาอยู่ในรูปของแอนดรอยด์ในโลกใหม่ โดยมิได้ไปในแนวทางความนึกคิดมุ่งสู่การมีชีวิตจิตใจราวกับมนุษย์แบบผลงานก่อนๆ(แอนดรอยด์ในหัวข้อนี้ผู้กำกับตั้งอกตั้งใจให้แยกออกด้วยคำกล่าวรวมทั้งอิริยาบถแจ่มแจ้งว่าถูกโปรแกรมไว้) แต่ว่าเอาจุดนั้นมาใส่ไว้ด้านในเรื่องราวการดูแลลูกมนุษย์ด้วยมือแอนดรอยด์ พร้อมชุดความนึกคิดที่ถูกโปรแกรมให้สอนเด็กพวกนั้นไม่ให้เชื่อในพระผู้เป็นเจ้า ศาสนา หรือจิตวิญญาณ (โซล) ในตัวมนุษย์อีกต่อไป
ด้วยความมุ่งหวังว่าจะสร้างโลกยูโทเปียขึ้นมาแทนโลกที่ถูกทำลายล้างไป ซึ่งทางข้างศาสนาในเรื่องก็มีชุดความเชื่อถือที่สอนกันในกรุ๊ปฝังไว้ให้เด็กๆไม่ตรงกันกับฝั่งเอทิสต์ รวมทั้งเดินทางมาถึงดาวดวงเดียวกัน กระทั่งกำเนิดเป็นการศึกขึ้นอีกที รวมทั้งไม่ตรงกันกับฝ่ายเดียวกันเรื่องความเชื่อถือกับเชื่อถือต่างๆที่ข้างเอทิสต์กลับเริ่มมีชุดความนึกคิดนี้ขึ้นในตัว แม้กระทั้งแอนดรอยด์ทั้งสองในหลังจากนั้นก็เริ่มใกล้ความเป็นคนเยอะขึ้นเรื่อยๆ
แม้กระนั้นเรื่องบนดาวดวงนี้มีเพียงแค่กรุ๊ปคนรอดชีวิตจากโลก ก็เลยมิได้เป็นแถวฉากการสู้รบใหญ่ มีเพียงการตามล่าต่อสู้กันในวงจำกัด ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต โดยมีธรรมชาติอันไร้มนุษยธรรมของดวงดาว กับสิ่งมีชีวิตดุร้ายบนดาวดวงนี้มาเป็นแบ็คกราวด์เสริมเรื่องหลักอีกครั้ง แต่ว่าเรื่องก็มีแฟลชแบ็คกลับไปฉากการรบบนโลกที่ยอดเยี่ยมพอสมควร เพราะว่าเป็นการรบที่มนุษย์ถูกล่าโดยแอนดรอยด์เนวัวรแมนเซอร์ (คล้ายเรื่องของเซนติเตียนเนลใน X-Men Days of the Future Past) รวมทั้งตัวต้นเหตุของเนวัวรแมนเซอร์ก็เป็นความลับของเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสองแอนดรอยด์ ฟาคุณร์ มาคุณร์ ที่อยู่บนดาวดวงนี้เหมือนกัน
ตัวเรื่องให้อารมณ์แนวดราม่าทริลเลอร์ ลุ้นระทึกไปกับการเอาชีวิตรอดบนดาว รวมทั้งการอุปการะเด็กของสองแอนดรอยด์ ที่มีความผิดธรรมดาแอบซ่อนอยู่ในภาวะที่บากบั่นทำให้ดูราวกับว่าธรรมดา และก็เป็นสาเหตุของชื่อ Raised by Wolves เกิดกำเนิดรวมทั้งอุปถัมภ์โดยสุนัขป่า โดยที่สุนัขป่าแทนตัวแอนดรอยด์มาคุณร์ในเรื่องโยงมาถึงนิทานเรื่อง สุนัขป่ากับลูกหมูสามตัว นอกนั้นตัวเรื่องยังจัดว่าร้ายแรงมากมาย อย่างในตอนแรกก็ใส่ฉากเลือดสาดกระจัดกระจายมาให้ผู้ชมชักชวนช็อค เมื่อความลับของมาคุณร์ถูกเผยขึ้นมา
เอฟเฟ็กต์กับ CG ในเรื่องมีคุณภาพสูงตามมาตรฐานของผู้กำกับ Ridley Scott ที่เป็นคนตั้งใจเนื้อหานิดๆหน่อยๆทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าภาพส่วนประกอบวางแบบต่างๆในเรื่องบางครั้งก็อาจจะมองเชยๆอันนี้เป็นความตั้งมั่นเพื่อยึดโยงกับกลุ่มชนสองพวกท้ายที่สุดที่มีความเชื่ออันเป็นรากปัญหาของผู้คนชาติมาตั้งแต่อดีตกาล และก็เรื่องตั้งอกตั้งใจให้ทั้งคู่ฝั่งยึดมั่นความนึกคิดของตัวสุดขั้วในชนิดเดียวกันกับช่วงก่อนกระทั่งจะต้องต่อสู้กัน แม้กระนั้นมากำเนิดในสมัยอนาคตแทน ซึ่งก็บางทีอาจจะมองไร้เหตุผลกระทั่งไม่น่าเชื่ออยู่บ้าง
Carnival Row
คาร์นิวัล โรว์ ซีรีส์แนวดราม่าแฟนตาซีสืบสาว ซีรี่ย์ ฝรั่ง ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขจากบทภาพยนตร์ที่มิได้ใช้อย่าง A Killing on Carnival Row การสังหารเมืองมรณะ ซึ่งเป็นบทที่ดินผู้ผลิต ทราวิส บีชาม ได้เขียนไว้ ก่อนที่จะเอามาดัดแปลงแก้ไขเป็นซีรีส์ยาวแปดตอนร่วมกับ เรอเน เอเชวาร์เรีย แสดงนำโดย ออร์แลนโด บลูม, ค้างร่า เดเลวีน, ไซมอน แมคเบอร์นีย์, แทมสิน เมอร์เฉลียงต์, เดวิด จีอาซี่ สร้างโดย Legendary Television ออกฉายทางสตรีมมิ่ง อะเมซอน พงไพรม์ตั้งแต่สิงหาคมปี 2019 แม้กระนั้นกว่าผมจะได้มาเปิดมองก็ในระหว่างที่มีข่าวสารว่าจะมีฤดูกาล 2 ผมเลยจำต้องมาดูสักนิดว่ามีดีเช่นไร พูดได้ว่าเกิดเรื่องที่นอกสายตามากมาย ถึงแม้กระแสตอนออกมาใหม่ๆจะไปในทางดี
แม้กระนั้นเนื่องจากว่าตอนนั้น ผมไม่เคยรู้เลย มิได้หาซีรีส์อะไรดูด้วย เลยพลาดไป แต่ว่านี่เป็นจังหวะที่ดีที่พวกเราจะมาทำความรู้จักกับซีรีส์ฟอร์มยักษ์ที่เปี่ยมไปด้วยงานสร้างเหนือจริง และก็มากมายด้วยผู้แสดงมากมายความสามารถอย่างเนืองแน่น พล็อตที่เปิดตัวด้วยความรักและก็การฆ่าสังหาร ผสมกับเรื่องเทพนิยายแล้วก็โลกในแบบสตรีมพังก์สมัยวิคตอเรียศตวรรษที่ 17 มันจะมีผลให้โลกข้างในเรื่องน่าดึงดูดหรือเปล่า แล้วก็อะไรที่ทำให้มันดีกระทั่งสามารถได้ไปต่อในฤดูกาลหน้าด้วย
“กล่าวถึงโลกในศตวรรษที่ 17 เรื่องราว 7 ปีภายหลังการทำศึกระหว่างมนุษย์กับชาวแพ็คได้กำจัดเหล่าเฟที่เคยอาศัยบนแผ่นดินเทอร์นาน็อกเดิมไปจนถึงแทบหมดเกลี้ยง ไรครอคอยฟต์ ฟิโลสเตรต ตำรวจสอบปากคำผู้เคยผ่านสนามรบรบ เป็นเพียงผู้เดียวที่เต็มอกเต็มใจจะหยุดการฆาตกรรมแล้วก็รักษาความสงบสุขที่แสนบอบบางในเบิร์ก เมืองมนุษย์ที่ๆเต็มไปด้วยการแบ่งชนชั้นทางสังคม แม้กระนั้นเมื่อวินเยตต์ สโตนมอสส์ เฟสาวที่ซ่อนหนีแล้วก็ได้เจอกับการสิ้นไปต้องหาทางที่จะเอาชีวิตรอด
วินเยตต์ยังจะต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับบางสิ่งบางอย่างที่น่าน่ากลัว ซีรี่ย์ ฝรั่ง ท่ามกลางสังคมที่อยากเค้าหน้าแล้วก็เงินของเอ้อร์ซ่าและก็อิโมเจน สเปิร์นโรส กับพัคผู้สุภาพเรียบร้อยอย่างเอ้อร์กัส การบ้านการเมืองที่ชิงดีชิงเด่น ชิงเด่นของครอบครัวหัวหน้าเมืองอย่าง แอบซาลอม กับเมียรวมทั้งลูกชาย เพียงพอร์เตียกับโจนาห์ เบรกสเปียร์กับคู่คัดค้านอย่าง ริทเตอร์ กับโซฟี ทดลองเกอร์เบน ความปรารถนาและก็ความรักในคาร์นิวัล โรว์ของเหล่าเฟกับมนุษย์ที่ปรารถนาความสำราญ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพัครวมทั้งชาวโทรลที่ยากแค้นแล้วก็โกรธเคือง
แล้วก็เงามืดที่ซ่อนใต้เมือง ท่ามกลางความสับสนและก็วกไปวนมาของเมืองเบิร์ก จะดึงทุกคนในเมืองไปสู่เคราะห์กรรมรวมทั้งอนาคตที่ไม่บางทีอาจเดา”หากแม้หน้าหนังจะมองเป็นซีรีส์รักต่างเชื้อสายแบบที่ซีรีส์แฟนตาซีเป็นกัน แต่ว่าจริงๆมันเป็นซีรีส์แนวการบ้านการเมืองสังคมที่ฉาบด้วยการไต่สวนผสมกับส่วนประกอบแบบเทพนิยายที่หมองหมองและไม่ได้สวยสดงดงาม มันเต็มไปด้วยการกดขี่ของเผ่าพันธุ์ที่ไม่เหมือนกัน โดยใช้ตัวกลางเป็นตัวเองชายรวมทั้งหญิงเป็นตัวสะท้อนภาพพวกนั้น
ให้คิดอาจเป็นการเลียนแบบสังคมระบบทุนนิยมอเมริกาในตอนนี้ที่มีการดูถูกผิว เหยียดคนที่ย้ายถิ่นเข้ามาในประเทศโดยใช้สิ่งมีชีวิตที่เหนือธรรมชาติแทนภาพของคนภายนอกที่ไม่ถูกกฏหมายและไม่ได้สารภาพจากคนชนชั้นที่สูงกว่าหรือเป็นผู้ชนะการรบ แล้วก็เปลี่ยนภาวะเป็นแรงงานหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นหญิงขายบริการทางเพศดำเนินงานด้านในซ่องโสเภณีให้มนุษย์ใช้ระบายความปรารถนาและก็ลบหลู่ดูหมิ่นไปๆมาๆ ส่วนสิ่งที่หลงเหลือของผู้แพ้เป็นการเปลี่ยนภาวะเป็นนิทรรศการให้คนผู้ดีได้มาเชยชม อย่างกับมันไร้คุณค่าอะไร คนผู้ดีที่มีความคิดว่าการเกื้อกูลผู้ลี้ภัยเป็นราวกับพระมาโปรดและไม่จำต้องตั้งใจสนใจอะไรอีก
โดยมีความเกี่ยวข้องอันสลับซับซ้อนระหว่างความรักรวมทั้งผลตอบแทน ความต้องการแล้วก็ความชัง การฆ่าสังหารแล้วก็แรงบันดาลใจ ที่หากว่าซีรีส์จะให้นักแสดงอย่างวินเยตต์ กับ ไฟโลเป็นตัวนำ แต่ว่าก็เล่าสิ่งแวดล้อม มุมมองของนักแสดงอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องในทางคดีหรือทางเรื่องราว ทำให้มันเป็นซีรีส์แนวสอบสวนที่มีการปูบทพอควร คิดออกว่ากว่าเรื่องจะติด จำต้องใช้เวลา 3 ตอนอย่างยิ่งจริงๆ หากผู้ใดกันเบื่อๆก็ไม่ต้องฉงนใจ ด้วยเหตุว่ามันจะเบาๆดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต สร้างโลกที่น่าไว้ใจรวมทั้งเป็นได้ เหมือนกันกับ
ฉากเซ็กส์ระดับ 20+ ที่มองเห็นหมดในเกือบทุกในขณะที่มี betflix57 ฉากการฆ่าสังหารหรือล้วงเครื่องในแต่ละขณะที่ชั่วร้ายระดับ 18+ ที่ดูแล้วอาจจะอักอ่วนแน่นอนผู้แสดงในเรื่องถูกแบ่งได้สามเส้นเรื่อง เป็นต้นว่า ชนชั้นเฟ ผู้ดี แล้วก็ชนชั้นดูแลที่ต่างมีเรื่องมีราวราวแล้วก็ปัญหาเป็นของตนเอง ซึ่งบางทีมันก็สะดุดตาจนกระทั่งแย่งซีนเส้นเรื่องอื่นๆแล้วก็แทบมิได้เกี่ยวข้องกันโดยตรงเท่าไรนัก เพียงแค่มันอยู่บนพื้นที่เดียวกันแต่ว่าต่างมุมมอง ด้วยเหตุนี้พวกเขาจะมีมุมมองของตนแตกต่างเมื่อดูไปที่อีกชนชั้นหนึ่ง ตามสิ่งที่พวกเขาเป็นรวมทั้งบางทีก็อาจจะเปลี่ยนได้ตามสิ่งที่จำเป็นการยินยอมรับ ความทะยานอยากที่จะยิ่งใหญ่ในสังคม
ถูกเสนอออกมาอย่างมีมิติและไม่ได้แบนราบ เพราะเหตุว่าทุกผู้แสดงมิได้ดีหรือร้าย 100 เปอร์เซนต์ แต่ว่าให้เรียกว่ามีเป้าหมายเป็นของตนเอง ในเวลาเดียวกันก็จะมีการเบาๆใส่ความโรแมนติกต่างชนชั้นเข้ามาให้มองเห็นวิวัฒนาการของผู้แสดงในเรื่องไปพร้อมๆจนกระทั่งสิ้นเรื่องอีก ชนชั้นการบ้านการเมืองก็จะมีเรื่องมีราวของผลตอบแทนทับซ้อน การทรยศหักหลัง การเดินหน้าสู่ความใหญ่โต
ผู้แสดงต่างมีบุคลิกผิดแผกรวมทั้งเด่น มีเส้นเรื่องเป็นของตนเอง ดูหนังผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากเส้นเรื่องหลัก ช่วยทำให้โลกในเรื่องยิ่งใหญ่เข้าไปอีก ในส่วนของชนชั้นเฟก็จะมีความเป็นแฟนตาซีครึ่งสอบปากคำที่เชื่อมโยงกันผ่านคดีการสังหาร กล่าวได้ว่ามองซีรีส์หัวข้อนี้ ได้มองหลายแนว โรแมนติก ดราม่า การบ้านการเมือง ตื่นเต้น แฟนตาซี แล้วก็เปลี่ยนเป็นเรื่องเดียวกัน ถ้าเกิดให้ผมเล่ามากยิ่งกว่านี้มันก็จะเสียอรรถรสด้วยเหตุว่าถ้าอย่างนั้นอยากที่จะให้ไปดูด้วยตาของตนเอง