ดูหนังออนไลน์ Awareness (2023) เต็มเรื่อง วัยรุ่นที่อาศัยอยู่กับบิดาของเขาในเขตชานเมืองโดยใช้กลอุบายนิดๆหน่อยๆโดยใช้ความรู้ของเบื่อสำหรับในการสร้างภาพหลอกตาให้กับเหยื่อที่ไม่สงสัย สิ่งต่างๆเริ่มสลับซับซ้อนขึ้นเมื่อพลังของเขาควบคุมมิได้ในที่ชุมชนAwareness เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นตื่นเต้นแนววิทยาศาสตร์ชนชาติประเทศสเปน-อเมริกันปี 2023 ดูแลโดย Daniel Benmayor ca จากบทภาพยนตร์โดย Benmayor, Iván Ledesma และก็ Manuel Burque แสดงนำโดยคาร์ลอส ชอลซ์ ร่วมกับมาเรีย เปดราซา, เปโดร อลอนโซ่, ท่าทาง ลอเรน แล้วก็ออสการ์ จาเอนาดาเบื่อ
วัยรุ่นที่มีพลังสำหรับเพื่อการร่ายภาพลวงในจิตใจของบุคคลอื่น ติดอยู่ท่ามกลางความไม่ลงรอยกันระหว่างสองกรุ๊ปเนื่องด้วยการได้เผยพลังของเขา ทำให้จะต้องเลือกข้างหนึ่งในการสู้รบที่กำลังจะออกเดินทางมาถึงเวลาที่โลกกับก้าวหน้าแก้ไขสร้างเอาดีด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ แม้กระนั้นเราก็ยังคงประทับใจที่จะเห็นความสนุกสนานร่าเริงในต้นแบบเหนือธรรมชาติ กับพลังพิเศษที่เหนือใครๆและจากนั้นก็เป็นที่เรียกร้องของคนไหนกัน แม้ว่ามันค่อนจะเชยและไม่แปลกอะไรมากมายสักแค่ไหน หากแม้มันก็ออกมาเป็น “Awareness” หนังแอคชันไซไฟเรื่องตอนนี้จากกรุ๊ปผู้สร้างฝั่งประเทศสเปนที่มาสร้างภาพหลอกลวงในวงการหนังขึ้น
ดูหนังออนไลน์ Awareness (2023) เต็มเรื่อง หนังพากย์ไทย
Awareness เล่าราวของ รำคาญ เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่กับพ่อของเขาเขตชายเมือง ในฐานะลักขโมยเก็บเล็กลักขโมยน้อย ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญพลังพิเศษของเขาที่ประจำตัวมาตั้งแต่เอง กับอำนาจจิตสร้างภาพหลอกลวงต้มตุ๋นเหยื่อให้เชื่ออย่างไม่สงสัย ซึ่งพลังของเขาแปลงเป็นที่พึงพอใจกลุ่มต่อต้านมุ่งหมายเอามาปรับปรุงแก้ไข รวมทั้งมันยิ่งซับซ้อนมากขึ้น เมื่อพลังของเขาเพิ่มการควบคุมได้ต่อที่หมู่ชน ผู้กำกับชาวประเทศสเปน “แดเนียล เบนเมเยอร์” มารับหน้าที่ดูแลงานสร้างหนังหัวข้อนี้ เราบางทีก็อาจจะคุ้นชินเขาจากผลงานหนังฮอลลิวูด Tracers ล่าโจนเมือง
เมื่อเกือบสิบปีก่อน กับเร็วๆนี้ในซีรีส์ Welcome to Eden ซึ่งในประเด็นนี้เขาก็ยังรับหน้าที่ ดูหนังออนไลน์ Awareness (2023) เต็มเรื่อง ร่วมเขียนบทหนังมาจากคอนเซ็ปต์รวมทั้งไอเดียที่ร่วมตรึกตรองมาจากคณะทำงานของเขาเองภาพยนตร์แอ็คชั่นตื่นเต้นแนววิทยาศาสตร์ Awareness (2023) เรื่องจริงเป็นเพียงแต่สิ่งลวงแม้กระนั้นคงจำเป็นต้องบอกตรงๆว่า Awareness กลายเป็นหนังแอคชันไซไฟที่ค่อนข้างจะเข้าขั้นให้อารมณ์น่าเบื่อ หนังเกือบจะไม่มีรสชาติใดๆเลย
เต็มไปด้วยความจำเจไม่มีจุดแข็งที่น่าละลานตารวมถึงเรียกความชอบใจได้ พล็อตก็เสมอเหมือนๆกับหนังคนพลังเหนือมนุษย์ที่เราต่างเคยเห็นเคยดูกันในหนังมากมายเรื่องในตอน 10-20 ปีที่ผ่านมานั่นแหละ นอกเหนือจากนี้ คอนเซ็ปต์ที่ค่อนจะเชยของหนังแล้ว Awareness ยังมาพร้อมกับจังหวะหนังที่ค่อนข้างจะล้าหลัง แทบจะขยี้ตาเห็นว่า นี่เป็นหนังปี 2023 ใช่หรือไม่ใช่ เนื่องจากว่าไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ฉากและองค์ประกอบต่างๆในหนังนั้น
ดูราวกับว่ากับหนังในช่วงต้นยุคปี 2000 ไปตราบจนกระทั่งศูนย์กลาง ในช่วงเวลาที่วงการหนังเพิ่งจะตื่นเตันกับพลังเอ็กซ์เมน หรือ ละลานตากับโลกของแมททริค มาไม่นานเองโดยเฉพาะงานออกแบบฉากบู๊ต่างๆของหนัง Awareness ค่อนจะตกยุคใหม่ ท่าทางแล้วหลังจากนั้นก็มุมกล้องถ่ายสำหรับภาพอะไรต่างๆช่างเป็นการแสดงแบบการแสดงจริงจังเสียเป็นอย่างมาก ดูยังไงก็เห็นได้ชัดว่าเป็นการแสดงที่จัดบล็อกกิงเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม เป็นการออกลีลาท่าทางที่ไม่แฟร์ดา เหงาหงอย ถึงแม้เดินตามคอนเซ็ปต์ไปอย่างน่าระอาไปหมด
รีวิวหนัง “Killers of the Flower Moon
เพียงแต่ได้ยินชื่อส่วนประกอบของรายการอาหารนี้ที่มี “มาร์ติน สกอร์เซซี” ผสมกับ “ลีโอทุ่งนาร์โด ดิติดอยู่ปริโอ” แล้วยังมีวัตถุดิบเสริมพิเศษเป็น “โรเบิร์ต เดอ นีโร” เพียงเท่านี้ พวกเราก็คงจะตั้งความหวังไว้ภายในระดับบาร์ที่สูงได้แล้ว เพราะว่ามั่นใจว่า “Killers of the Flower Moon” ประเด็นนี้ต้องเปลี่ยนเป็นหนังดรามาสมัยอินเดียนแดงถูกรุกรามที่ออกมาแยบยลมากมายๆจริงแท้แน่นอน
Killers of the Flower Moon เกิดเรื่องที่เกิดขึ้นในสมัยปี 1920s เมื่อนํ้ามันถูกศึกษาค้นพบที่เมืองโอคลาโฮมา ในพื้นที่ของชนท้องที่โอเซจ กระทำพวกเขาเริ่มถูกแทรกซึมจากคนขาวที่เข้ามาตั้งภูมิลำเนารวมทั้งหยาบสำหรับในการสร้างธุรกิจ ก่อนที่จะเอามาสู่เหตุเรื่องเศร้าตลอดที่ชาวโอเซจก็เลยถูกฆ่าไปครั้งละคน จนถึงข้าราชการหน่วยสอบสวนกึ่งกลางเข้ามาไขปัญหาดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็เลยเปลี่ยนเป็นมหรสพโรงใหญ่
แล้วจุดไฮไลต์ที่เด่นจุดๆของหนังหัวข้อนี้ ก็คงหนีไม่พ้น กับขยายความยาวของหนังที่ยาวถึง 3 ชั่วโมง 20 นาทีเศษๆถือได้ว่าเป็นหนังอีกหัวข้อในประวัติศาสตร์แวดวงหนังฮอลลิวูดที่สร้างออกมาได้ยาวเฟื้อยขนาดนี้ แม้กระนั้นแม้ว่าหนังจะยาวมากมายๆเท่านี้ แต่ว่าก็ยังสามารถผลักรั้งผู้ชมไว้ในตรึงตาตรึงใจกับภาพบนหน้าจอได้อย่างอยู่มือ แปลงเป็น 3 ชั่วโมงกว่าๆที่ราวกับตกอยู่ในภวังค์ที่เต็มไปด้วยอรรถรสที่อร่อย
โดย Killers of the Flower Moon ได้ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงสร้างขึ้นจากนิยายชื่ดังของ “เดวิด มึงรนน์” ที่เผยแพร่ในปี 2017 ซึ่งในคราวนี้ได้นักประพันธ์ความสามารถระดับรางวัล “อิไล ร็อธ” มาช่วยเขียนบทให้ ร่วมกับ มาร์ติน สกอร์เซซี ที่ร่วมช่วยปลุกปั้นบทหนังหัวข้อนี้ออกมาได้อย่างมีมนต์ขลังอย่างน่าทึ่ง ต้นฉบับนิยายของหนังประเด็นนี้อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดความยาวกว่า 350 หน้า ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่นักที่เพียงพอมาขึ้นหน้าจอใหญ่จะใช้เวลานานเท่านี้
แน่ๆว่า มาร์ติน สกอร์เซซี ก็ยังคงละเลงแต่งแต้มผลงานของเขาด้วยลีลาท่าทางอันเป็นสไตล์แบบผู้กำกับชั้นเอก ที่มาพร้อมทั้งงานสร้างที่ออกจะละเอียดแล้วก็บรรจงในทุกๆนาทีที่ถ่ายทอดออกมา แม้ว่ากันถึงพล็อตเรื่องนั้น ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า Killers of the Flower Moon ออกจะพิจารณาเรื่องราวออกมาได้เพลิดเพลินรวมทั้งประทับใจก้าวหน้าตลอดทั้งเรื่อง
รีวิวหนัง “The Burial ความเป็นธรรมที่ถูกฝัง
หากว่าคุณถูกใจดูหนังที่อิงมาจากเรื่องราวจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังแนวเฉือนเฉือดต่อสู้ด้วยถ้อยคำแล้วก็อารมณ์ที่จอแจในชั้นศาล “The Burial ความชอบธรรมที่ถูกฝัง” คงจะจัดว่าเป็นเยี่ยมในหนังที่คุณจำเป็นที่จะต้องไม่พลาด เนื่องจากนี่เป็นอีกหนึ่งหนังที่จับเอาคดีในประวัติศาสตร์ในสังคมอเมริกันมาขึ้นหน้าจอ เพียงแค่รายนามดาราหนังก็จำต้องเหลียวกันมาดู กับท่วงทีสำหรับเพื่อการสืบหาร่องรอยเอามาแงะสู้กันที่ดุเด็ดเผ็ดมันพอได้เลย
The Burial ความเป็นธรรมที่ถูกฝัง ได้รับแรงบันดลมาจากความจริงของคดีภาระข้อตกลงของแวดวงการปลงศพในอเมริกา พบเรไมห์ โอคีฟ เจ้าของธุรกิจการปลงศพที่ตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น ได้ตกลงใจว่าจ้างทนายผิวสี วิลลี เอ็งร์รี มาช่วยกู้เหตุการณ์ธุรกิจครอบครัว ประมือกับหน่วยงานยักษ์ใหญ่ที่บริหารเอาเปรียบบนความทุกข์ใจของคนอื่นๆ เปลี่ยนเป็นการต่อสู้ในชั้นศาลที่เต็มไปด้วยอารมณ์เดือดแค้นและก็เสียงหัวเราะ ที่เอามาสู่ความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของสังคมแล้วก็เชื้อชาติที่อยู่ด้วยกัน
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของผู้กำกับหญิง “แม็กกี เบ็ตต์ส” ดูหนังออนไลน์ Awareness (2023) เต็มเรื่อง ที่ยังคงเน้นย้ำสร้างภาพยนตร์ที่ปลุกแรงดลใจให้กับผู้ชมอีกเหมือนเคย โดยคราวนี้คุณยังมีส่วนร่วมสำหรับในการเขียนบทด้วย รวมทั้งถือได้ว่าเป็นหนังเชิงการค้าเรื่องแรกๆในอาชีพของคุณ ภายหลังที่เคยสั่งสมประสบการณ์ทำหนังฟอร์มเล็กๆกับหนังสั้นมาบ้างเล็กน้อยในตอนสิบปีที่ล่วงเลยไป
ดังนี้ The Burial ความชอบธรรมที่ถูกฝัง บางครั้งอาจจะเป็นดรามาข้อบังคับที่แทบมิได้มีเชิงชั้นอะไรบ้างที่อยู่ในแง่ความแปลกใหม่ในตนเอง โหมดของการเล่าเรื่องและก็โครงเรื่องก็ค่อนข้างจะใช้สูตรสำเร็จของหนังแนวๆนี้แบบเดิม กิมไม่กลูกเล่นต่างๆก็มิได้ประยุกต์ใช้เยอะมากอะไร มันเป็นการร้อยเรียงเรื่องไปแบบเรื่อยเป็นลำดับขั้นตอนที่ต้องเป็น ซึ่งถ้าหากว่าผู้ใดกันมิได้ถูกใจหนังแนวที่บอกมากมายและก็เต็มไปด้วยซักไซ้ในชั้นศาล คุณอาจจะรู้สึกเบื่อและก็ปิดหนีไปกลางทางได้
รีวิวหนัง “อมตะประเภทสยดสยอง Immortal Species
ถึงคิวหนังเสี่ยงภัยตื่นเต้นที่นับว่าเป็นโปรเจกต์ที่ได้ยินมาครู่หนึ่งใหญ่ๆอย่าง “อมตะประเภทสยดสยอง Immortal Species” ที่มีขั้นตอนข้างหลังการถ่ายทำแล้วก็ทำซีจีอยู่นานเป็นปี แล้วช่วงนี้มันก็ได้กาลที่จะออกมาให้ผู้ชมได้เชยชมกันแล้ว กับการจับเอาตำนานตะไข้ยักษ์ดึกดำบรรพ์ออกมาก่อกวนอีกที เพียงแต่ว่า..ส่วนประกอบอะไรทำนองนี้ มันจะยังเวิร์กในปี 2566 อยู่หรือไม่?
อมตะประเภทสยดสยอง Immortal Species เป็นสถานะการณ์ที่นิสิตกรุ๊ปหนึ่งได้เริ่มเดินทางไปตามหา ต้นชาละวัน พืชหายากประเภทหนึ่งที่เจอหลบซ่อนอยู่บนเกาะน้ำกึ่งกลางป่าลึก แม้กระนั้นพวกเขาจะต้องจะต้องเจอหน้ากับความเกี่ยวพันในสมัยก่อนของหมู่คณะแต่ละคน ท่ามกลางความลี้ลับสลับซับซ้อนที่เบาๆทวีตัวขึ้นทุกเมื่อ แล้วก็ยิ่งร้ายไปกว่านั้นเมื่อทุกคนพบว่า เวลานี้พวกตนจำเป็นต้องตกอยู่ในอันตรายจากการเป็นเหยื่ออันอร่อยของไอ้เข้ดึกดำบรรพ์
นี่เป็นผลงานปัจจุบันของ “บอย-เจตนิพัทธ์ สาราชสีห์” ที่เคยสร้างชื่อมาจาก ๔๐๐ ทหาร ขุนรองปลัดยก UFABETWIN666 ที่ถ้าว่าคนไหนกันแน่เคยศึกษางานชิ้นก่อนของเขา ก็คงจะจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เนิ่นๆด้วยเหตุว่าแน่ๆว่ากลับมาอีกทีในครั้งนี้ มาตรฐานงานสร้างและก็แนวทางวิสัยทัศน์ที่มีออกมาในหนังหัวข้อนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีความเจริญมากขึ้นเรื่อยๆสักเท่าไหร่ ดีไม่ดีอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีแนวทางที่ถอยหลังกลับลงลำคลองด้วย เนื่องจากว่าแต่ละจุดของหนังออกจะไม่มีเหตุผลสักเท่าไหร่
บอกตามจริงว่า อมตะจำพวกสยดสยอง Immortal Species เป็นหนังที่มีสูตรสำเร็จความเป็นหนังปีศาจร้ายรวมทั้งเป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดแบบเชยๆที่เต็มไปด้วยส่วนประกอบที่แสนจะเชยไปเกือบทุกส่วนประกอบ ที่ทำให้ผู้ชมจำต้องเผลอคิดไปว่า นี่พวกเรากำลังนั่งอยู่ในโรงภาพยนต์ในปี 2545 หรือย้อนกลับไปสัก 20 ปีที่ผ่านมาอยู่หรือไม่ เนื่องจากว่าแก่นของหนังที่ถ่ายทอดออกมาไม่ต่างอะไรกับหนังเสี่ยงภัยในสมัยนั้น ทั้งยังจังหวะและก็ลีลาท่าทางที่เชื้อเชิญกุมขมับ
รีวิวหนัง “No One Will Save You”
ถ้าหากคนใดกันแน่ที่ถูกใจหนังแนวตื่นเต้นคละเคล้าไซไฟแบบคาดการณ์อะไรมิได้ คงจะจำต้องเหลียวหันมามองหัวข้อนี้ “No One Will Save You” ที่จะมาปฏิบัติภารกิจกระตุกขวัญและก็บังคับปลุกอารมณ์ให้กับทุกคนได้ดิบได้ดีตลอด 90 นาทีของหนังประเด็นนี้ ที่รับรองว่าบางทีอาจคาดการณ์แล้วก็คิดอะไรล่วงหน้ากับหนังหัวข้อนี้ไปก่อน เพราะว่ามันบางทีอาจจะไม่ใช่อย่างที่คุณคิดไว้
No One Will Save You เล่าราวของ ไบรน์ อดัมส์ หญิงสาวที่พักที่อาศัยอยู่ในบ้านที่คุณเคยชินมาตั้งแต่เด็กๆอย่างสันโดษ แต่ว่าเหตุการณ์ของคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนไปเพียงแต่เลวข้ามคืน เมื่อจะต้องเจอหน้ากับการบุกรุกบ้านของแขกที่ไม่อาจจะกำหนดได้กระจ่างแจ้งว่ามันเป็นตัวอะไร ทราบแค่เพียงมันตัวแปลกแปลก แล้วก็ไม่บางทีอาจทราบถึงจุดหมายการมาของมันนี่เป็นผลงานปัจจุบันของ “ไบรอัน ดัฟฟิลด์” นักสร้างภาพยนตร์ดาวรุ่งที่น่าจับตาดูอีกคนภายในยุคนี้ โดยนี่นับว่าเป็นผลงานควบคุมหนังยาวเรื่องที่ 2 ในอาชีพของเขา ภายหลังที่เคยเดบิวต์จากภาพยนตร์ตลกสยองขวัญ Spontaneous มาเมื่อตอนก่อนวัววิด-19 โดยคราวนี้เขายังคงรับหน้าที่ดูแลรวมทั้งเขียนบทหนังเองอีกเหมือนปกติ
ไบรอัน ดัฟฟิลด์ เคยเป็นผู้เขียนบทหนังมาก่อน เขาเคยแต่งโครงเรื่องให้กับหนังดังๆอย่าง The Babysitter, Divergent: Insurgent รวมทั้งปัจจุบันกับ Love and Monsters ที่มองจากประสบการณ์ก่อนหน้าที่ผ่านมา เขาออกจะชำนาญกับงานนิพนธ์หนังสยองขวัญ-ตื่นเต้นเป็นทุนเดิมอยู่ไม่น้อย แม้กระนั้นคราวนี้กลับมาในแนวสยองขวัญเหมือนเคย แต่ว่าเพิ่มเติมอีกด้วยความเป็นไซไฟลี้ลับ ซึ่งดูเหมือนจะยังเข้ามือเขาได้อย่างดีเยี่ยม